top of page

สรุป Tense ต่างๆ ในภาษาอังกฤษ

การใช้ Tense ในภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการสื่อสาร และเขียนในภาษาอังกฤษ โดย Tense หมายถึง การใช้รูปเวลาของคำกริยาในประโยค เพื่อแสดงเวลา หรือช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์หรือการกระทำ โดย Tense แบ่งเป็นหลายแบบ แต่ละแบบก็มีหน้าที่ และความเหมาะสมในการใช้งานต่างกัน



ดังนั้น ในบทความนี้ ครูจิ๊บจะอธิบายเรื่องการใช้ Tense ต่างๆ ในภาษาอังกฤษ และวิธีการใช้ Tense ในการพูดหรือเขียนภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังสนใจในเนื้อหาของเรา


1. Present Simple Tense


Present Simple Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ที่เป็นจริงในปัจจุบัน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ


การใช้ Present Simple Tense เราจะใช้กริยาช่องที่ 1 หรือรูปธรรมดาของกริยา โดยไม่ต้องเติม -s หรือ -es เมื่อกริยาอยู่หลังประธานพหูพจน์ หรือประธาน I/ you


แต่เมื่อเป็นกริยาในบุคคลที่สาม/ หรือประธานเอกพจน์ เราจะต้องเติม -s หรือ -es หลังกริยา


เช่น I speak English every day. / He speaks English every day.


2. Present Continuous Tense


Present Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ หรือเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินการอยู่ หรืออยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับขณะนั้น


Present Continuous Tense ใช้รูปแบบของ to be (am/is/are) + กริยา+ -ing

เช่น

  • She is watching TV at the moment.

  • They are studying English right now.

ในการใช้ Present Continuous Tense เราอาจจะใช้คำบอกเวลาหรือคำบอกสถานที่เพื่อเพิ่มความชัดเจนให้กับเหตุการณ์ เช่น

  • I am currently working on a project at the office.

  • He is jogging in the park at the moment.

นอกจากนี้ Present Continuous Tense ยังสามารถใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินการในอนาคตที่กำลังวางแผนอยู่หรือกำลังจะเกิดขึ้น เช่น

  • We are meeting our clients tomorrow.

  • He is going to the gym after work.


3. Present Perfect Tense


Present Perfect Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและมีผลกระทบกับปัจจุบัน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และยังคงมีผลกระทบในปัจจุบัน


ในการใช้ Present Perfect Tense เราจะใช้กริยาช่องที่ 3 หลัง have/has


โดย have ใช้กับประธานพหูพจน์ หรือประธาน I/ you และ has ใช้กับกริยาช่วงที่ 3 เป็นต้น


เช่น I have studied English for 5 years.


4. Past Simple Tense


Past Simple Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต


การใช้ Past Simple Tense เราจะใช้กริยาช่องที่ 2 โดยไม่ต้องเติม -s หรือ -es หลังกริยา


เช่น I visited Japan last year.


5. Past Continuous Tense


Past Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต และเป็นเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินการอยู่ตลอดเวลาหนึ่งในอดีต


การใช้ Past Continuous Tense เราจะใช้กริยา to be (was/were) + กริยา+ -ing ตามหลัง


เช่น I was studying English when my friend called.


6. Past Perfect Tense


Past Perfect Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตก่อนหน้าเหตุการณ์อื่น ๆ ในอดีต


การใช้ Past Perfect Tense เราจะใช้กริยาช่องที่ 3 หลัง had


เช่น I had studied English for 5 years before I moved to the United States.


7. Future Simple Tense


Future Simple Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการใช้ Future Simple Tense เราจะใช้ will + กริยาช่วงที่ 1 เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น I will travel to Japan next year.


การใช้ Tense ในภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่สำคัญและซับซ้อน โดยการใช้ Tense ให้ถูกต้อง และเหมาะสมกับเนื้อหาจะช่วยให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจเนื้อหาของเราได้ง่ายขึ้น และเพิ่มความน่าสนใจให้กับเนื้อหาของเรา


ดังนั้น การใช้ Tense ให้ถูกต้องและเหมาะสมเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการใช้ภาษาอังกฤษเสมอ

ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page